มุซซี่ อิซเซ็ต​ รำลึกเกมยูฟ่า คัพ 1997 กับ แอตเลติโก มาดริด

หากเอ่ยชื่อของ มุซซี่ อิซเซ็ต แล้ว แฟน ๆ “จิ้งจอกสยาม” รุ่นใหม่อาจจะจำ อดีตดาวเตะทีมชาติตุรกี​ คนนี้ไม่ได้ แต่สำหรับแฟนเลสเตอร์ ยุค 90 ถึงยุค 2000 คงรู้จักกันเป็นอย่างดี แถม อิซเซ็ต ยังเป็นหนึ่งในดาวเตะยอดขวัญใจของแฟนบอลรุ่นเก๋าอีกต่างหาก

อิซเซ็ต ผ่านการลงสนามให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ถึง 319 เกม พร้อมยิงไป 47 ประตูในช่วงระหว่างปี 1996 ถึง 2004

อิซเซ็ต มีเส้นทางการค้าแข้งที่น่าสนใจไม่น้อย เมื่อเขามีพ่อเป็นชาวเติร์ก (ตุรกี) และมีแม่เป็นชาวอังกฤษ ก่อนที่ อิซเซ็ต จะเซ็นสัญญากับอะคาเดมี่ของ เชลซี ตั้งแต่อายุ 19 ปีในปี 1993 อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์ลูกครี่ง ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรกับทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” ก่อนที่ เลสเตอร์ จะยืมตัว อิซเซ็ต มาใช้งานในเดือนมีนาคม 1996 ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อขาดในเวลาต่อมา หลัง อิซเซ็ต ทำผลงานได้น่าประทับใจในถิ่น ฟิลเบิร์ต สตรีท

ตลอดระยะเวลา 8 ปีในถิ่น อีสต์ มิดแลนด์ อิซเซ็ต คว้าแชมป์ ลีก คัพ กับเลสเตอร์ ได้ 2 ครั้งในปี 1997 และ 2000 พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในทีมชุดลุย ยูฟ่า คัพ ในปี 1997 และ 2000 นอกจากนี้กับผลงานในระดับชาติ เขายังมีส่วนพาทีมชาติตุรกี คว้าอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลโลก 2002 ได้อีกด้วย

เอียน มาร์แชล ทำประตูให้เลสเตอร์ บุกนำไปก่อน 1-0 ที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน

เอียน มาร์แชล ทำประตูให้เลสเตอร์ บุกนำไปก่อน 1-0 ที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน

ในปี 1997 อิซเซ็ต เป็นกำลังสำคัญของทีมในเกม ยูฟ่า คัพ ที่ต้องพบกับ แอตเลติโก มาดริด​ ซึ่ง กองกลาง​เลือดไก่งวง ก็ยังจำประสบการณ์วันนั้นได้ดี ก่อนจะมารำลึกความหลังในอีกกว่ายี่สิบปีต่อมา

“ตอนที่เราได้แชมป์ลีก คัพครั้งแรกในปี 1997 เราตื่นเต้นมากที่จะได้ลงเล่นบอลยุโรป ตอนนั้น ยูฟ่า คัพ ยังเป็นรายการแข่งแบบน็อคเอาท์ เล่นกันสองนัดเหย้า-เยือน แพ้คัดออก ดังนั้นผมต้องบอกว่าเราโชคร้าย ไปไม่หน่อยที่ต้องไปเจอกับ แอตเลติโก มาดริด ในรอบแรก”

“ถ้าผมจำไม่ผิด ผมว่าพวกเขาไปถึงแชมป์ในฤดูกาลนั้นนะ พวกเขามีทีมที่ดีจริง ๆ มี คริสเตียน วิเอรี่ เล่นกองหน้า มี จูนินโญ่ ในแดนกลาง ดังนั้นพวกเราจึงเจองานหนักมาก”

“เกมแรก บรรยากาศในสนามตอนไปเยือนที่ มาดริด ก็สุดกดดัน ผมจำได้ว่า มาร์ติน โอนีล บอกพวกเราว่าไม่ต้องกดดัน แต่ต้องยอมรับว่าเราไม่เคยเจอกับสภาพแวดล้อมและเสียงเชียร์แบบนี้มาก่อน บรรยากาศมันต่างจากพรีเมียร์ลีกมาก เราทุกคนกลัวบรรยากาศในสนามเลยแหละ ลองดูจากตอนเราถ่ายรูปหมู่ทีมก่อนเตะก็ได้”

ธงที่ระลึก ในเกมแรก ที่เลสเตอร์ บุกเยือน แอตเลติโก มาดริด

ธงที่ระลึก ในเกมแรก ที่เลสเตอร์ บุกเยือน แอตเลติโก มาดริด

“แต่เราเริ่มต้นได้ดี เราออกนำไปก่อน ทว่าหลังจากนั้น ฟอร์มเราตกลงไป เราเสียพลังงานไปเยอะ และสุดท้ายพวกเขาก็แซงชนะเราได้ แต่เราก็ยังมองว่าเราได้อะเวย์โกล์กลับบ้าน และเรามีโอกาสในเลกสอง”

“เกมในบ้าน บรรยากาศที่ ฟิลเบิร์ต สตรีท สุดยอดมาก แฟน ๆ ส่งเสียงเชียร์ตลอด ผมยังจำความรู้สึกวันนั้นได้อยู่เลย มันเป็นค่ำคืนยุโรปที่น่าประทับใจมาก”

เกมในบ้านนั้น เลสเตอร์ เล่นได้ดีพอสมควรในครึ่งหลัง ก่อนที่หลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทีม “ตราหมี” จะเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนหลัง ฆวน โลเปซ โดนไล่ออก แต่ว่าหลังจากนั้น แกรี่ ปาร์เกอร์ ​ของเจ้าถิ่นก็มาโดนใบเหลืองที่สองจนต้องออกจากสนามไป ขณะเดียวกันทัพ “จิ้งจอก​สยาม” ควรจะได้จุดโทษในหลายจังหวะ แต่ผู้ตัดสิน​ก็เฉยและปล่อยเกมดำเนินต่อไป

“ผู้คนพูดกันหลังเกมว่าเราควรได้จุดโทษ 2-3 ครั้ง อย่างน้อยผมคิดว่าต้องมีหนึ่งจุดโทษแหละ มันไม่แฟร์เท่าไร และหลังจากเกมนั้น กรรมการก็โดน ยูฟ่า ถอดออกจากรายชื่อผู้ตัดสินไปสักพักเลย”

“ลองคิดดูว่าถ้าเราได้จุดโทษ เราอาจจะชนะในเกมหรือได้ไปลุ้นในช่วงต่อเวลา แต่ก็นั่นแหละ มันจบลงที่ตรงนั้น เราตกรอบ”

“โอนีล พอใจกับฟอร์มของพวกเรานะ เราทำทุกอย่างตามที่เขาขอ บางครั้งเกมระดับนี้ คุณเก่งอย่างเดียวไม่พอ แต่คุณต้องการโชคด้วย น่าเสียดายที่วันนั้น ทุกอย่างไม่เข้าข้างเรา”

“จริง ๆ ถือว่าเราเติบโตได้รวดเร็วมากนะ เราเพิ่งเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก ปีแรกเราจบอันดับ 9 และได้แชมป์ ลีก คัพ จนได้สิทธิเล่น ยูฟ่า คัพ ตอนนั้นเราไม่ได้เป็นทีมที่ร่ำรวยอะไร แต่ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน และทำให้เราประสบความสำเร็จได้แบบนั้น” อิซเซ็ต​ รำลึกความหลังปิดท้าย