วาร์ดี้ ยิงทดเจ็บ เลสเตอร์ บุกเสมอ บราก้า 3-3 ผ่านเข้ารอบยูโรป้า ลีก
ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 กลุ่ม G เลสเตอร์ ซิตี้ บุกเยือน เอสตาดิโอ มูนิซิปาล เดอ บราก้า ของทีม เอสซี บราก้า โดยก่อนลงสนามเลสเตอร์ เป็น จ่าฝูงของกลุ่มมี 9 คะแนนเต็มจากสามนัด ขณะที่เจ้าบ้าน บราก้า มี 6 คะแนนจาก 3 นัดเป็นรองจ่าฝูง
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เปลี่ยน 5 ตำแหน่งจากเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ โดยยังไม่มีผู้เล่นที่บาดเจ็บทั้ง ชากลาร์ โซยุนชู,ทิโมธี คาสตานเย่ ,วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และ ริคาร์โด้ เปเรยร่า
รายชื่อผู้เล่น : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,มาร์ค อัลไบรท์ตัน,เจมส์ จัสติน,จอนนี่ อีแวนส์,คริสเตียน ฟุคส์,ลุค โธมัส,ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้,เดนนิสปราท,ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์,เซนกิซ อุนแดร์,เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
สำรอง : แดนนี่ วอร์ด,เอลดิน ยาคูโปวิช,เวสลี่ย์ โฟฟาน่า,เวส มอร์แกน,ยูริ ติเลอม็องส์,เจมี่ วาร์ดี้,เจมส์ แมดดิสัน,อโยเซ่ เปเรซ,น็อมปาลิส เมนดี้
ก่อนเริ่มเกมมีการยืนไว้อาลัยให้กับ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่เสียชีวิตในวัย 60 ปี เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
เกมเริ่มมาแค่ 5 นาที เจ้าบ้านบราก้า ทีบุกกดดันอย่างหนัก ก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน เมื่อแนวรับเลสเตอร์ เคลียร์บอลไม่ดีจากจังหวะยิงของ ลูริ เมเดรอส แล้วบอลกระฉอกมาเข้าทาง จากจังหวะยิงไกลของ อัล มัสราติ ที่ยิงเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม บราก้า ออกนำแล้ว 1-0
จากนั้นแค่ 4 นาที เลสเตอร์ ก็มาได้ประตูตีเสมอ เมื่อ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่เก็บบอลได้บริเวณกรอบเขตโทษแล้วจ่ายต่อออกด้านซ้าย ให้ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เติมเข้ามายิงผ่านมือ มัทเธอุส ผู้รักษาประตูของบราก้า หมดสิทธิ์ป้องกัน เลสเตอร์ ตีเสมออย่างรวดเร็ว 1-1
บราก้ามาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 24 จากจังหวะที่ ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า หลุดแนวรับเลสเตอร์ ไปแตะหลบ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แล้วตวัดจากเส้นหลังกลับมาให้ เปาลินโญ่ ยิงเข้าไปง่าย ๆ เจ้าบ้านขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
น.30 เลสเตอร์ เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ฮูโก้ วิอาน่า ส่งบอลคืนหลังพลาด เซนกิซ อุนแดร์ แอบเข้ามายิงเร็วทันทียังไปติดเซฟ มัทเธอุส จังหวะจะซ้ำด้วยขวา ก็พลาดไปอีก
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เลสเตอร์ เกือบเสียประตูที่ 3 เมื่อ เปาลินโญ่ ได้แปเหน่ง ๆ หน้าประตูแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังเซฟไว้ด้วยเท้า รอดพ้นการเสียประตูไปได้ จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ยังตามหลังอยู่ 1-2
ครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนเอา ยูริ ติเลอม็องส์ กับ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ลงมาเล่นแทน เดนนิส ปราท กับ คริสเตียน ฟุคส์
น.60 เลสเตอร์ ได้โอกาสดีที่สุดจาก เซนกิซ อุนแดร์ ที่ได้ปั่นด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษแต่ มัทเธอุส ยังบินปัดพ้นอันตราย
น.61 เลสเตอร์ เปลี่ยนตัวอีกสองคน ส่งเจมส์ แมดดิสัน กับ เจมี่ วาร์ดี้ ลงมาเล่นแทน เซนกิซ อุนแดร์ กับ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
น.62 วาร์ดี้ ที่ลงมาแค่ นาทีเดียว ก็ส่งบอลเข้าประตูไปได้ แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าซะก่อน
น.67 ชไมเคิ่ล ต้องงัดซูเปอร์เซฟออกมาอีกครั้ง จากจังหวะเทคตัวขึ้นโหม่งของ เปาลินโญ่ บริเวณกรอบหกหลา แต่นายประตูชาวเดนมาร์ก ยังไม่พลาด
น.69 เลสเตอร์ ส่ง อโยเซ่ เปเรซ ลงมาเล่นแทน เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
น.79 เลสเตอร์ ซิตี้ มาตีเสมอได้ จากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน พาบอลหนีผู้เล่นบราก้า ไปถึงเส้นหลัง แล้วตบเข้ากลางให้ ลุค โธมัส เข้าชาร์จหน้าประตู “จิ้งจอกสยาม” ตีเสมอแล้ว 2-2
เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 แต่แล้วนาทีที่ 90+1 เจ้าบ้านก็ได้จังหวะโต้กลับ กาเลโน่ กองหน้าตัวเก่งของบราก้า พาบอลลุยเข้าเขตโทษแล้วไหลออกด้านข้างให้ ฟรานแซร์จิโอ ตัวสำรองวิ่งสอดเข้ามายิงผ่านมือ ชไมเคิ่ล เข้าไปให้เจ้าบ้านนำ 3-2
แต่ทัพ “จิ้งจอกสยาม” ก็ตายยากช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 มาร์ค อัลไบรท์ตัน ก็ได้ทะลุขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวาแล้วเปิดลึกมาเสาสอง เจมี่ วาร์ดี้ รอสังหารไม่พลาด จบเกมเสมอกันไปอย่าง ตื่นเต้น 3-3
หลังจบเกมนัดนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ มี 10 คะแนนจาก 4 นัด ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปแน่นอนแล้ว นัดต่อไปจะกลับมาเล่นเกมพรีเมียร์ลีก พบกับ ฟูแล่ม ที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม คืนวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 00.30 น.